คอลเลคชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์จริงภายในประเทศไทยนั่นคือ ‘เวียงเจ็ดลิน’ ตำนานโบราณเก่าแก่ที่ถูกเล่าถ่ายทอดสู่รุ่นต่อรุ่น (น้อยคนที่จะรู้จัก) มันถูกเกิดขึ้นก่อนเข้ายุคสมัยล้านนา ที่ปัจจุบันอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศไทยใน จ.เชียงใหม่
เมื่อนานนับพันปีมาแล้ว มีสถานที่โบราณแห่งหนึ่งที่ถูกกล่าวในตำนานเมืองแห่งสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ด นามว่าเมืองเวียงเจ็ดลิน
ที่นั่นมีแม่น้ำวิเศษเจ็ดสาย ไหลมาบรรจบกันเป็นวงกลม เปรียบเสมือนดวงตาแห่งสวรรค์ สายน้ำที่ใสสะอาด ปกปักรักษาอารยธรรมอันรุ่งเรืองให้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์อย่างยาวนาน จนกระทั่งได้มีเหล่าผู้อพยบจากแดนไกลมาอาศัยอยู่จนกลายเป็นกลุ่มหมู่บ้านและวิถีชีวิตของพวกเขาไปพร้อมกับสายน้ำเวียงเจ็ดลินไปโดยปริยาย
ความวิเศษของสายน้ำแห่งนี้คือ ผู้ใดที่ได้รับบาดเจ็บ หากใช้น้ำจากเจ็ดลินชำระร่างกาย แผลเหล่านั้นจะจางหายราวปาฏิหาริย์ ผู้ใดที่เจ็บไข้ได้ป่วย หากได้ดื่มกับสายน้ำบริสุทธิ์ ก็จะฟื้นคืนกลับมาแข็งแรงดังเดิม ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านในเมืองจึงได้เริ่มทำความเคารพสายน้ำทั้งเจ็ด พวกเขาเริ่มทำพิธีบูชาต่อสายน้ำทุกวันรุ่งขึ้น เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์และความบริสุทธิ์เอาไว้
เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนเริ่มสังเกตเห็นว่า สายน้ำศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆ สูญเสียพลัง น้ำใสสะอาดเริ่มขุ่นมัว ฤทธิ์บำบัดรักษาเริ่มเสื่อมลงอย่างช้าๆ
พวกเขาตื่นตระหนก เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังลงโทษ จึงเริ่มทำพิธีกรรมที่เข้มงวดกว่าเดิม ทุกคนก้มลงกราบไหว้อย่างเคร่งครัด สวดภาวนาอย่างไม่หยุดหย่อน เสียสละทุกสิ่งเพื่อบูชาสายน้ำ
พวกเขาเริ่มโทษกันเอง โทษว่าเป็นเพราะมีบางคนบูชาไม่ดีพอ บางคนไม่บริสุทธิ์มากพอ นั่นจึงเป็นเหตุให้น้ำสูญเสียพลังศักดิ์สิทธิ์ และแล้วการบูชาที่เคยงดงามกลายเป็นการกดขี่ ผู้คนถูกบังคับให้ทำพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่และหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้ต้องแลกกับความทุกข์ของตัวเองก็ตาม แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดจึงค่อยๆ หายไป และในที่สุด เมืองทั้งเมืองก็ถูกกลืนหายไปตามกาลเวลาและเกิดการล่มสลาย มีเพียงหนึ่งคำจารึกที่เหลือรอดมาได้กลางแท่นเวียงเจ็ดลิน พร้อมกับการปรากฎของกำไลอันงดงามที่มีนามว่า ศุขธารา
“เมื่อเจ็ดลินรวมเป็นหนึ่ง ประตูแห่งพรจะเปิดออก”
แต่คำจารึกนี้หมายความว่าอย่างไร คำตอบของปริศนาถูกซ่อนเอาไว้ในกำไล “ศุขธารา” นี้แล้ว
สายน้ำในป่าลึกไหลเอื่อย ดุจเส้นไหมแห่งธรรมชาติ ผิวน้ำสะท้อนประกายต้องแสงแรกแห่งรุ่งอรุณและแสงสุดท้ายยามอัสดง ระยิบระยับราวอัญมณีต้องมนต์ Sphene สีเขียวประกายรุ้งงดงามดุจทะเลอัญมณีที่ไม่มีที่สิ้นสุด สายน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งเวียงเจ็ดลินถูกจารึกลงในอัญมณีนี้ สีเขียวแห่ง Sphene คือสัญลักษณ์ของสายน้ำบริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกำไล ‘ศุขธารา’ เพื่อสะท้อนความงดงามและพลังแห่งสายน้ำที่ไม่มีวันเหือดแห้ง
ทุกเม็ดอัญมณีพลอยของ ZINARIN ในคอลเลกชัน ศุขธารา ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจากอัญมณีที่มีคุณภาพสูงสุด เราเลือกใช้ พลอยสฟีนสีเขียว ที่มีความสะอาดระดับ IF (Internally Flawless) ซึ่งหมายถึงความใสบริสุทธิ์ไร้ตำหนิภายใน ทำให้พลอยแต่ละเม็ดเปล่งประกายแสงสีได้อย่างสมบูรณ์แบบ
พลอยสฟีนเป็นหนึ่งในอัญมณีที่มี การกระจายแสง (Dispersion) สูงที่สุดในโลก สูงกว่าเพชร จึงสามารถหักเหและเล่นไฟได้อย่างงดงามราวกับหยดน้ำที่ต้องแสงอาทิตย์ เปรียบดั่ง สายน้ำที่ไหลเอื่อยภายใต้แสงแดด ส่องประกายระยิบระยับด้วยพลังแห่งความบริสุทธิ์และชีวิต
ในคอลเลกชันศุขธารา พลอยสฟีนสีเขียวอำพันไม่ใช่เพียงอัญมณีที่งดงาม แต่ยังเป็นตัวแทนของ สายน้ำบริสุทธิ์ ที่เชื่อมโยงถึงพลังแห่งธรรมชาติ สายน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตและนำพาความอุดมสมบูรณ์สู่ผู้ครอบครอง
สัมผัสความงามอันเป็นเอกลักษณ์กับกำไลศุขธารา รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ผลิตเพียง 3 วงเท่านั้น เปิดรับพรีออเดอร์แล้ววันนี้ พร้อมรับสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับผู้สั่งจองรอบแรก